ถุงน้ำรังไข่ (ovarian Cyst) เกิดจากอะไร อันตรายไหม ควรรักษาอย่างไร?
ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Cyst) ถุงน้ำรังไข่คือถุงขนาดเล็กท […]
ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian Cyst)
ถุงน้ำรังไข่คือถุงขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของเหลวที่เกิดขึ้นที่รังไข่ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ผลิตไข่ในผู้หญิง ถุงน้ำรังไข่ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและหายไปเองภายในสองถึงสามเดือน อย่างไรก็ตาม ถุงน้ำรังไข่บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปวดหรือปัญหาอื่นๆ และจำเป็นต้องรับการรักษา
สาเหตุของถุงน้ำรังไข่
สาเหตุที่แน่ชัดของถุงน้ำรังไข่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในระหว่างรอบเดือน ในแต่ละรอบเดือน ถุงน้ำเล็กๆ ที่เรียกว่าฟอลลิเคิลจะพัฒนาขึ้นบนรังไข่ หากฟอลลิเคิลนี้ไม่ปล่อยไข่ ถุงน้ำจะเต็มไปด้วยของเหลวและกลายเป็นถุงน้ำรังไข่
ปัจจัยเสี่ยงสำหรับการเกิดถุงน้ำรังไข่ ได้แก่
- อายุ: ถุงน้ำรังไข่พบได้บ่อยในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
- การตั้งครรภ์: ถุงน้ำรังไข่บางชนิดอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างตั้งครรภ์
- ภาวะมีบุตรยาก: หญิงมีบุตรยากมีแนวโน้มที่จะเป็นถุงน้ำรังไข่ได้มากกว่า
- ประวัติเป็นถุงน้ำรังไข่ในครอบครัว: ประวัติในครอบครัวของถุงน้ำรังไข่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดถุงน้ำรังไข่
อันตรายของถุงน้ำรังไข่
ถุงน้ำรังไข่ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตาม ถุงน้ำรังไข่บางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปวดหรือปัญหาอื่นๆ ได้ ดังนี้
- ปวดท้อง
- รู้สึกอึดอัดหรือหนักท้อง
- มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด
- มีปัญหากับการตั้งครรภ์
- อาการบวม
- คลื่นไส้
- อาเจียน
ถุงน้ำรังไข่บางชนิดอาจเป็นอันตรายได้หากมีขนาดใหญ่หรือบิดตัว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การรักษาถุงน้ำรังไข่
การรักษาถุงน้ำรังไข่นั้นขึ้นอยู่กับขนาด อาการ และสาเหตุของถุงน้ำ
- ถุงน้ำรังไข่ขนาดเล็กที่ไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ มักจะไม่จำเป็นต้องรับการรักษา
- ถุงน้ำรังไข่ที่ทำให้เกิดอาการปวดหรือปัญหาอื่นๆ อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด
- ถุงน้ำรังไข่ที่เป็นอันตรายจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อเอาถุงน้ำออก
การป้องกันถุงน้ำรังไข่นั้นทำได้ยาก เนื่องจากสาเหตุยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตาม การตรวจทางสูตินรีเวชเป็นประจำสามารถช่วยในการตรวจพบและรักษาถุงน้ำรังไข่ตั้งแต่เนิ่นๆ