อย่ามองข้าม! อาการ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) หนึ่งโรคยอดฮิตหนุ่มสาวออฟฟิศ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) โรคยอดฮิตของหนุ่มสาวออฟ […]
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (cystitis) โรคยอดฮิตของหนุ่มสาวออฟฟิศที่ไม่ควรมองข้าม
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่สุด และอาจมีเลือดปนในปัสสาวะได้ โดยสาเหตุหลักของโรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดอี.โคไล ซึ่งอาศัยอยู่ในลำไส้และสามารถแพร่กระจายไปยังท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะได้
อาการที่พบได้บ่อยของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้แก่
- ปัสสาวะแสบขัด
- ปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะขัด
- ปัสสาวะไม่สุด
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
นอกจากนี้ อาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น
- ปวดท้องน้อย
- ปวดหลังส่วนล่าง
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- มีไข้
ปัจจัยเสี่ยง
มีหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ได้แก่
- เพศหญิง (เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้นกว่าเพศชาย)
- มีเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะในช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
- กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน
- มีโรคทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต
- ใช้สายสวนปัสสาวะ
การรักษา
การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ通常จะมีผลหากรักษาในระยะแรกๆ ด้วยยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่ง ยาปฏิชีวนะที่ใช้บ่อย ได้แก่ ไทรเมโทพริม (trimethoprim), ไนโทรฟูแรนโทอิน (nitrofurantoin) และไซโปรฟลอกซาซิน (ciprofloxacin) หลังการรักษา อาจต้องมีการตรวจปัสสาวะซ้ำเพื่อยืนยันว่าการติดเชื้อหายไปแล้ว
การป้องกัน
มีวิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ดังนี้
- ดื่มน้ำเปล่ามากๆ เพื่อช่วยชำระล้าง และป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตในกระเพาะปัสสาวะ
- ปัสสาวะทันทีเมื่อรู้สึกปวดปัสสาวะ เพื่อไม่ให้แบคทีเรียมีเวลาแพร่กระจาย
- ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างอ่อนโยนหลังจากเข้าห้องน้ำ
- หลังจากมีเพศสัมพันธ์ ให้ล้างบริเวณอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่าและสบู่ ไม่สวนล้างช่องคลอด
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนชื้น
- หลีกเลี่ยงการใช้สเปรย์หรือผงชำระในบริเวณอวัยวะเพศ เพราะอาจระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
อย่ามองข้ามอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง