“ลมพิษ” ผิวหนังเป็นผื่นนูนแดง คัน เป็นๆหายๆ เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาอย่างไร?

ลมพิษ ลมพิษเป็นภาวะที่ทำให้ผิวหนังเกิดเป็นผื่นนูนสีแดงห […]

ลมพิษ

ลมพิษเป็นภาวะที่ทำให้ผิวหนังเกิดเป็นผื่นนูนสีแดงหรือซีด มักมีอาการคัน และอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย ผื่นลมพิษอาจเกิดขึ้นในบริเวณใดก็ได้ของร่างกาย และอาจมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันไปตั้งแต่เล็กเท่าหัวเข็มหมุดจนถึงใหญ่เท่าฝ่ามือ

สาเหตุของลมพิษ

ลมพิษเกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ เมื่อร่างกายสัมผัสกับสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ สารกระตุ้นเหล่านี้อาจรวมถึง:

• อาหาร เช่น ถั่ว งา อาหารทะเล ไข่ นม
• ยา เช่น เพนนิซิลลิน ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs)
• แมลงกัดต่อย เช่น ยุง แตนผึ้ง
• การติดเชื้อ แบคทีเรียหรือไวรัส
• สภาพแวดล้อมที่กระตุ้น เช่น ความร้อน ความเย็น แสงแดด ลมแรง
• ความเครียดทางอารมณ์

วิธีรักษาลมพิษ

การรักษาลมพิษมุ่งเน้นที่การบรรเทาอาการคันและลดการอักเสบ วิธีการรักษาที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่:

• ยาต้านฮีสตามีน: ยาเหล่านี้ช่วยยับยั้งการทำงานของฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำให้เกิดอาการคัน
• ยาทาเฉพาะที่ที่มีคอร์ติโคสเตียรอยด์: ยาทาเหล่านี้ช่วยลดการอักเสบและอาการคัน
• การประคบเย็น: การประคบเย็นบริเวณที่เป็นลมพิษสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและลดการอักเสบ
• การใช้ครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้น: การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยลดความแห้งและคันของผิว
• การหลีกเลี่ยงสารกระตุ้น: การหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่กระตุ้นให้เกิดลมพิษเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันการเกิดลมพิษ

ในกรณีที่ลมพิษรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาเบื้องต้น อาจจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิคุ้มกันหรือยาอื่นๆ