ติดกินหวาน ติดน้ำตาล (sugar Blues) แก้อย่างไรดี ?

ติดกินหวาน ติดน้ำตาล (Sugar Blues) แก้อย่างไรดี? การติด […]

ติดกินหวาน ติดน้ำตาล (Sugar Blues) แก้อย่างไรดี?

การติดกินหวานหรือติดน้ำตาล (Sugar Blues) เป็นภาวะที่เกิดจากการบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายเกิดการดื้อต่ออินซูลินและส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่เสถียร ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน และโรคหัวใจได้

อาการของการติดกินหวาน

• มีความอยากกินของหวานอย่างรุนแรงและควบคุมไม่ได้
• หงุดหงิดหรือหงุดหงิดเมื่อไม่ได้กินของหวาน
• อาการปวดหัวเป็นประจำ
• เหนื่อยล้าและง่วงนอน
• มีปัญหาในการนอนหลับ
• น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

วิธีแก้ไขการติดกินหวาน

การแก้ไขการติดกินหวานต้องอาศัยเวลาและความพยายามอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีวิธีการที่ช่วยได้ดังนี้

• ลดการบริโภคน้ำตาลค่อยๆ อย่าหยุดกินน้ำตาลอย่างกะทันหันเพราะจะทำให้เกิดอาการอยากกินมากขึ้น ค่อยๆ ลดปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มโดยแทนที่ด้วยน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล
• ทานอาหารที่มีน้ำตาลน้อย หลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการแปรรูป ขนมอบ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ให้เลือกบริโภคอาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และเนื้อสัตว์ที่ไม่แปรรูป
• หาตัวช่วยทดแทน เมื่อรู้สึกอยากกินของหวานให้หาตัวช่วยที่ไม่ใช่น้ำตาล เช่น ผลไม้ ผักแท่ง เนยถั่ว หรือโยเกิร์ต
• นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับไม่เพียงพอจะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิว ทำให้เกิดความอยากกินของหวานได้
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยลดความอยากกินของหวานและช่วยให้น้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่สมดุล
• ดื่มน้ำเยอะๆ น้ำช่วยให้อิ่มและช่วยลดความอยากน้ำตาล
• หาผู้สนับสนุน การมีผู้สนับสนุนหรือเพื่อนที่กำลังลดน้ำตาลด้วยกันจะช่วยให้มีแรงจูงใจและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

การแก้ไขการติดกินหวานต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อทำได้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับน้ำตาลในอนาคตได้